วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558

การใช้งานอุปกรณ์ติดตามแบบมือโปรโดยครูโก้

“พี่ครับ! ผมไม่ว่างไปงานศพนะครับ ผมนัดกับแฟนว่าจะไป})ระกัน’’ผม ตบไหล่เพื่อนรุ่นน้องเบาๆ บอกว่า“ไม่ว่างก็ไม่เป็นไรพี่ไปคนเดียวได้ แต่อย่าหักโหมมากนักนะ พี่เป็นห่วง”แหม! พี่ก็ มัน'โม่,ใช่อย่างที่พี่คิดหรอก ผมจะไปงานวันเกิดเพี่อนของ น้องเขา น้องเขาชวนผมมาหลายวันแล้วว่าวันนี้ให้ผมทำตัวให้ว่าง” เดชาอธิบาย “พี่เย้าเล่นเท่านั้นเอง อย่าคิดมาก  ไม่ต้องเป็นห่วง อุปกรณ์ติดตามไร้สาย ขอให้สนุกนะ”“ครับพี่ ผมไปก่อนละ’’ พูดจบเดชาก็เดินตัวปลิวไปทันทีคิดแล้วพาให้อิจฉาเดชา มาทำงานหลังผมตั้ง 3 ปีแต่ก็คว้าดาวประจำ ตำบลไปครองจนได้ ทั้งๆ ที่มีบรรดาเสี่ยหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างห้อมล้อมและ พร้อมจะหาสิงที่เธออยากได้ประเคนให้ แต่เธอหาได้สนใจในสิ,งหลอกตาเหล่า นั้นไม่ กลับคบหากับเดซาอย่างไม่สนใจกับคำห้ามปรามของบรรดาญาติๆ ของ เธอที่ประสงค์จะให้ตัวเธอได้คบหากับผู้ดีมีเงิน แล้วผมก็พานจะยอมรับนับถือ ในความเพียรพยายามของเดชาไม่ได้ ที่สามารถครองใจสาวน้อยผู้นี้ได้ แล้วพอ หันมองตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจช่างเป็นคนอาภัพเรื่องผู้หญิงชะจริง! ตัวเราสรุปแล้วคืนนี้ผมต้องเดินทางไปงานศพของพี่แม้นคนเดียว ตอนนั่งฟัง พระสวดอยู่ที่งานศพก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ช่วงทีผมเดินทางกลับ ขณะที่กำลัง คร่อม1จักรยานยนต์คู่ชีพ ผมก็ได้กลิ่นธุปจางๆ มากระทบกับจมุเก ผมหันมองไป รอบๆ กายก็พบว่าเพื่อนบ้านของป้าแจ่มกำลังกุลีกุจอขึ้นรถ แต่ละคนทยอยออกเดินทางกลับบ้าน จีพีเอสดักฟัง ท่าให้รู้สีกอุ่นใจขึ้นมานิดหน่อย ผมขับรถมาเรื่อยๆ มา ตามถนน จนกระทั่งถึงจุดที่พี่แม้นโดนรถไฟชนตาย ผมเหลือบดูนาพักาที่ข้อ มือซ้าย เป็นเวลาเกือบๆ จะเที่ยงคืน อากาศค่อนข้างเย็นเยือก รอบๆ บริเวณ มืดสนิท เห็นแต่เพียงกิ่งไม้น้อยใหญ่ที่เคลื่อนไหวไปตามกระแสลมที่พัดเอื่อยๆ รอบกายมืแต่ความเงียบ นอกจากเสียงจากท่อไอเสืยของรถจักรยานยนต์ของ ผมที่ดังเบาๆ ไม่มืแสงไฟจากหน้ารถให้เห็นขักดวงเดียว เหมือนกับว่าผมอยู่คน เดียวบนถนนสายนี้ คิดแล้วพาลทำให้ขนลุกเกรียว แต่ก็ใจขึ้นขึ้นมานิดหนึ่ง เมื่อมองเห็นแสงไฟที่ติดอยู่กับเสาข้างทางรถไฟอยู่ลิบๆทันใดนั้น! ท่ามกลางความเงียบเชียบ ผมได้ยืนเสียงร้องคราง ขอความ ช่วยเหลือเบาๆ“ช่วย...ด้วย... ช่วย...ด้วย..:,ด้วยสามัญสำนึกของความเป็นมนุษย์และคุณธรรมที่มือยู่เต็มเปียม ใน ตัวผมลืมเรื่องการตายของพี่แม้นไปเสียสนิท ผมรีบจอดรถ แล้วคว้าไฟฉาย ขนาดเล็กที่ติดตัวเอาไว้ตลอดเวลาส่อ่งหาต้นตอของเสียงร้องขอความช่วยเหลือ และแล้ว...แสงสว่างจากดวงไฟขนาดเล็กก็กระทบเข้ากับร่างของผู้ชายคนหนึ่ง ลักษณะนอนควาหน้า มองจากด้านหลังเห็นเลือดท่วมคืรษะ แขนทั้งสองข้าง ถูกกดทับไว้ กลางลำตัวไม่สามารถมองเห็นได้ ขาทั้งสองข้างถูกคลุมทับไว้ด้วย กางเกงสีดำกลางเก่ากลางใหม่ ขายาวแต่ชุ่มไปด้วยเลือด ผมค่อยๆ เดินเข้าไป ดักฟังระยะไกล  หาร่างนั้นอย่างช้าๆ ถามออกไปด้วยความเป็นห่วงว่า “คุณๆ เป็นอะไรหรือเปล่า ผมจะเรียกตำรวจให้นะ” พูดจบผมก็คว้าโทรดัพท์มือถือกำลังจะโทรหาตำรวจ แต่ร่างนั้นพยายามพยุงกายลุกขึ้นอย่างยากเย็น ค่อยๆ หันหน้ากลับมาพร้อม กับเปล่งเสียงออกมาอย่างยากสำบากเพราะใบหน้าซีกขวาพังหายไปทั้งแถบ “ไม่...ต้อง...ขอบ คุณ มาก”เสียงนั้นเยือกเย็น ยืดยาว และเนิ่นช้า ซีกหน้าด้านซ้ายที่เหลืออยู่พอจะ มองเห็นแววตาที่เศร้าสลด นอกเหนือจากนั้นคือความขาวซีด ซีดอย่างที่ผมไม่

เครื่องติดตามตัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น