ของ ร.«r ไม่สามารถคลี่คลายลงได้ รัฐบาลไม่มีคำตอบให้นก'ประชาชนอีกทั้งภาวะเศรษฐกิจของประเทศก็ยํ่าแย่ ประชาชนขาดแคลน ข้าวถึงกับประชาชนต้องเข้าคิวชื้อข้าว ในขณะที่ประเทศเราปลูกข้าวเป็น อาชีพหลักคืนวันที่ (ร พฤศจิกายน ๒๕๙๐คืนนี้...พรรคฝ่ายค้านนำโดยนายควง อภัย1วงค่โ จัดงานเมตตา บันเทิงช่วยเหลือประชาซนที่สวนอัมพร โดยเชิญนายกรัฐมนตรีถวัลย์ เครื่องติดตามไร้สาย ธำรง นาวาสวัสดิ้มาร่วมงานด้วยขณะที่งานสนุกสนานเป็นไปด้วยดี ได้มีนายทหารนายหนึ่งตรง เข้าหาหลวงธำรงนาวาสวัสดิ้ แล้วยื่นแผ่นกระดาษเล็กๆ ให้แก่เขา ชั่วเวลา ไม่ถึง ๑ นาที นายกรัฐมนตรีได้ออกจากค้าโอท็อป ผ่ งานอย่างรวดเร็วและหายตัวไปจากนั้นอีก ๑ ชั่วโมงข่าวแพร่สะพัดไปทั่ว ทหารทำการ “รัฐประหาร” โดยใช้กำลังหลักของทหารในกรุงเทพฯ โดยมีพันโทสฤษดิ้ ธนะร้ชต์ คุมลูก น้องออกก่อการ ชึ่งต่มาได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการกองพลที่ ๑คณะรัฐประหารประกอบด้วยพล.ท.ผิน ชุณหะวัน เป็นหัวหน้าคณะ รัฐประหาร นาวาอากาศเอกหลวงกาจสงคราม (เทียน เก่งระดมยิง) เป็น รองหัวหน้า และจอมพล ป. เป็นที่ปรึกษาคณะรัฐประหารเข้ายึดอำนาจ ปกครองได้สำเร็จจอมพล ผิน ชุณหะวัน นับได้ว่าเป็นผู้มีบทบาทสำคัญคนหนึ่งใน ทางทหารและการเมือง เป็นผู้นำทหารออกแนวหน้าเข้ายึดอำ๓อบางเขน ในสมัยกบฏบวรเดช เป็นรองแม่ทัพอีสานในสมัยสงครามอินโดจีน เป็น ผู้บัญชาการกองพลที่ ๓ นอกจากนี้เข้าตีและยึดนครเชียงตุงได้สำเร็จใน สงครามมหาเอเชีย!5]รพาแต่แทนที่จะได้รับความดีความชอบ กลับถูก ดักฟังทะลุกำแพง ให้ออกจากราชการใน สมัยรัฐบาลนายควง อภัยวงดั เป็นนายกรัฐมนตรีสืบแทนจอมพล ป. ใหม่ๆ เมื่อพ้นจากราชการแล้วได้อพยพครอบครัวไปทำไร่ทำสวนอยู่ที่ อำเภอบางนํ้าเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา และต่อมาได้อพยพเข้ามากรุงเทพฯ ในอีก ๒ ปีต่อมา เห็นบ้านเมืองวิกฤตในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒แม้จะออกจากราชการแล้ว พล.ท.ผิน ยังมีบารมีลูกน้องมากมาย ในกองทัพ จึงมีคณะทหารบางส่วนมาปรึกษาถึงสภาพบ้านเมืองนับวันจะ กลียุคขึ้น และขอร้องให้ล้มรัฐบาลนี้จากนี้ไปเป็นบันทึกบางส,วนของจอมพลผิน ชุณหะวัณ ใน เหตุการณ์รัฐประหาร ๒๔๙๐ ดังนี้...แม้กระนั้นข้าพเจ้าก็ยังไม่ตกลงใจ...แต่ได้เชิญตัวหัวหน้าผู้กุมกำลัง ทหารในพระนครมาปรารภทึละคนที่บ้าน ก็มีความเห็นเต็มใจร่วมด้วยทุก คน เว้นแต่ผู้บังคับกองทหารสื่อสาร และผู้บังดับการกรมขนส่งทหารบก แต่ข้าพเจ้ายู่ว่าถ้าไม่เห็นด้วยก็ให้นิ่งเสีย ขืนปากบอนต้องตายเมื่อ คิดถึงผลได้ผลเลียปรากฏว่าผลได้ของประชาชน ๑๐๐% ของผู้ควบคุม กำลังทหาร ๙๐% ซึ่งเป็นผลพอจะดำเนินการได้จึงนำเอาความเหล่านี้เสนอต่อ ฯพณฯ จอมพล ป. พิบูลสงคราม เครื่องติดตามตัวถูก ซึ่ง ออกจากราชการเช่นเดียวกัน พบครั้งแรกไม่ได้ผล รู้ว่าท่านหัวเสียขึ้นทันที พูดเสียงดังคล้ายไม่พอใจข้าพเจ้าและกล่าวว่า“ป่าจะมาชักชวนให้ผมติดตะรางอีกหรือ ผมติดตะรางมาครั้งหนึ่ง แล้วเพราะการเมือง ครั้งต่อไปอาจจะถูกลงโทษยิ่งกว่าคราวที่แล้ว ขอให้
เครื่องดักฟัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น