วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2558

ช่างติดตั้งเครื่องได้จ้างนักสืบแบบเหมาจ่ายในราคาหมื่นกว่า

“ปีที่แล้วนี้เองครับมีผู้หญิงพม่าหน้าตาดีคนหนึ่งลักลอบเข้า เมืองมาทำงานที่นี่ ชื่อเธอเป็นภาษาพม่าเรียกยาก เราเลยเรียก เธอสั้นๆว่าแม่เม้ย เป็นคนทำงานดีไม่เกียจคร้าน นิลัยก็ดีจนใครๆ ที่นี่ก็'รัก แต่หล่อนเป็นคนเงียบๆ ไม่มีใครรู้ว่าหล่อนมาจากไหน หรือหล่อนคิดอะไร ทำงานกันอยู่ลักสามเดือน ก็เริ่มมีผู้ชายคน หนึ่งมาหา ดักฟังระยะไกล ไม่รู้ว่าเป็นญาติหรือสามี แต่พอผู้ชายคนนี้กลับทีไร หญิงพม่าก็จะเก็บตัวเงียบ แม่บ้านที่นี่มาเล่าบ่อยๆ ว่าหล่อนเอา แต่ร้องไห้จนไม่เป็นอันทำอะไร ถามอะไรไม่พูดถามอะไรไม่บอก “หนสุดท้ายที่ผมเห็นเธอมีชีวิต ผู้ชายคนนี้ก็มาหาอีก แล้ว ก็มีอาการอย่างเติมคือเอาแต่'ร้องไห้ แม่บ้านที่นี่สงสารมากเข้า ไปปลอบโยนเหมือนเดิมละครับ คราวนี้แม่เม้ยยอมเล่าให้ฟังว่า ผู้ชายคนนั้นเป็นผู้ชายบ้านเดียวกัน หลอกพาเธอมาขายที่ชาย แดนไทย แต่ก่อนที่จะส่งถึงมือคนชื้อ ก็ข่มขืนเธอเสียก่อน อย่าง น้อยก็เป็นการข่มขวัญชนิดที่เธอเสียใจจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน “เม้ยเล่าว่า หลังจากนั้นมันพาเธอมาที่จุดนัดพบ เธอเห็น ว่ามีผู้หญิงอีกหลายคนที่ประสบชะตากรรมเดียวกับเธอกำลังถูกบงคับให้ขึ้นรถตู้ แต่บังเอิญตำรวจเข้าไปจับกุมพอดี พวกขายผู้ หญิงไม่ยอมให้จับ เลยมีการต่อสู้กันระหว่างชุลมุนกันนั่นเอง เธอ ฉวยโอกาสหนีห่างออกไปจากที่เกิดเหตุพอควรรอดมาได้เพราะ ได้ขึ้นไปหลบอยู่บนคบไม่ใบหนามนุษย์ เมื่อเหตูการณ์สลบ เธอไม่ได้ลง มาหาตำรวจ เพราะเธอรู้ว่าตำรวจต้องส่งเธอกลับบ้าน และถ้าขืน กลับ ผู้ชายคนนั่นต้องหาทางพาเธอมาอีกจนได้ เม้ยอยู่บนต้นไม้ ตลอดรุ่งจนเธอแน่ใจว่าไม่มีใครตามมาอีก“เข้าต่อมาเธอตัดสินใจลงมาจากต้นไม้ค่อยๆ เดินมาตาม ถนนสายเล็กๆ เข้าเมือง โชคเข้าเธอบ้างที่เจอรถอีแตนชาวบ้าน ให้อาศัยมาด้วย เธอเลยไม่ต้องเหนื่อยมากนัก แต่ยังไงก็ตามเธอ คิดว่าเธอจะมาตายเอาดาบหน้าดีกว่าจะกลับบ้านตอนนี้“เม้ยได้งานขายของหน้าร้านในเมืองนั่นเอง ทว่าไม่ข้าไม่ นานเธอได้เห็นชายโฉดที่พาเธอมาขายมาป้วนเปียนอยู่แถวหน้า ร้านที่เธอทำงานอยู่ แม้มันจะไม่รู้ว่าเหยื่อที่หนีรอดของมันอยู่ไม่ อุปกรณ์จับเสียง  ไกลมือ แต่เธอก็ไว่ใจอะไรไม่ได้ เม้ยตัดสินใจหายตัวจากร้านที่ เธอทำงานไปดื้อๆ โดยไม่ได้บอกเจ้าของว่าเหตุใดเธอต้องทำ อย่างนั่นเม้ยมาได้งานแม่บ้านที่โรงแรมนี้ เธอชอบงานทำความ สะอาด เพราะอย่างน้อยก็ทำให้เธอได้ซ่อนตัวอยู่เงียบๆ ในที่ ปลอดภัยแต่เหมือนเวรกรรมจะปล่อยให้เธอมีความสุขได้ชั่วระยะ เดียว อีกสองสามเดือนต่อมาผู้ชายคนนั่นก็ปรากฏด้วที่โรงแรม “เม้ยเล่าให้ป้าแม่บานฟังว่า วันที่พบกันจัง ๆ หน้าเธอตกใจ แทบสิ้นสติ ไม่มีทางหลบเลี่ยง มันจะลากตัวเธอออกไปตั้งแต่วัน นั้น ดีแต่ป้าแม่บ้านนั้นแหละจ้องมันไม่วางตา ท่าทางของป้าแม่ บ้านทำให้มันต้องล่ากอยไปไม่ทันได้ทำอะไร“แต่จากวันนั้นมามันก็ป้วนเปียนไม่ยอมปล่อยให้เธอรอด สายตา หลังสุดมันมาขู่เม้ยว่าหากไม่ยอมตามมันออกไปดีๆ มัน จะกลับไปทำร้ายพ่อแม่ของเธอ เครื่องดักฟังทำให้เม้ยคิดหนัก ป้าแม่บ้านบอก ให้หล่อนแจ้งตำรวจ แต่หล่อนว่าบ้านเมืองของหล่อนไม่มีขื่อมีแป มานานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่ใกล้ชายแดนอย่างพวก หล่อนนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่เห็นเม้ยมีชีวิต วันต่อมาแม่บ้านคน เดิมไปพบร่างของเธอเข้าในห้องนํ้าห้องพักที่ชาญมาเช่าอยู่ แต่ เธอตายเพราะเชือดข้อมือตัวเองขาด เลือดไหลนองชุ่มไปทั่วทั้ง ห้องนํ้า คนในโรงแรมทั่งสงสารทั่งกลัว ต่างคนเห็นว่าเม้ยใจแข็ง มากที่นอนรอความตายอย่างช้า ๆ

เครื่องติดตามในรถยนตร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น