วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558

ในยุคนี้เป็นยุคที่มีโจและขโมยมากจึงจำเป็นต้องมีการติดตั้งเครื่องตรวจจับความปลอดภัย

ธนาคาร และได้บอกให้เช่าบ้านที่หลักสี่กับบริษัทการบินแห่งหนึ่งในราคา <เา๐๐๐ บาทต่อเดือน นับว่าเป็นราคาที่สูงทีเดียวสำหรับสมัยนั้นจอมพล ป. ถูกนำไปฝากขังไว้ที่ห้องสันติบาลอยู่ในห้องขังพิเศษ เหนือห้องขังทั้งมวล เครื่องติดตามตัวบุคคล  แต่ห้องที่ท่านอยู่นี้ มีผู้มาอยู่ก่อนหน้าและได้ผูกคอ ตายไปแล้ว บุคคลนั้นคืออดีต รมต.วณิช ปาณะนนท์ ร่วม ครม. ในสมัย จอมพล ป.หลวงพิบูลฯ นอนไม่ค่อยหลับหลายคืน แม้จะหลับบ้างก็เพราะความ อ่อนเพลีย จึงขอให้เจ้าหน้าที่โยกย้ายห้องขังใหม่เจ้าหน้าที่ได้ย้ายจอมพล ป. ไปขังไว้ที,สถานีตำรวจศาลาแดงใน ห้องขังชั้นบน ช่วงนี้มีกระแสข่าวออกมาว่า อดีตนายกรัฐมนตรีมีประสาท ที่เครียด กล่าวหาว่ามีผู้ลอบทำร้ายด้วยการลอบนำยาพิษมาใส่ให้ดมคณะกรรมการสอบสวนอาชญากรสงครามส่งนายแพทย์มาพิสูจน์ และตรวจสภาพร่างกายจอมพล ป. ได้ข้อสรุปว่า ท่านเป็นโรคอุปทาน!หลวงพิบุลสงครามยังคงกระลับกระส่าย ในเวลาต่อมาได้ทำเรื่อง ขอร้องกับคณะกรรมการฯ ให้ตนเองมีเพื่อนร่วมห้องเพื่อคลายเหงาเจ้าหน้าที่ส่งนายสังข์ พัฒโนทัย เข้าไปคุมขังร่วมด้วยตามคำขอ การทำธุรกรรม ผ จนกระทั่งถูกย้ายไปสู'ลหุโทษ โดยขังไว้ในแดน๗ซึ่งเป็นที่คุมขังผู้ต้องโทษ ซาวต่างประเทศทางเจ้าหน้าที่ยังได้ให้เกียรติแก่อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยการเปลี่ยน เจ้าหน้าที่ผู้คุมประจำแดน โดยเอาชั้นตรีขึ้นมาควบคุมทั้งให้สิทธิพิเศษเช่น ไม่ต้องยกถังเมล์ (ถังอุจจาระ ปัสสาวะ)มีข้อเขียน'ของคุณพิมาณ แจ่มจรัส กล่าวไว้ในหนังสือ ชีวิตความรักและการต่อล้ของจอมพล ป. พิบูลสงครามในสถานการณ์ห้วงนี้ว่า...สามเดือนหมดไปด้วยการนั่งๆ นอนๆ จีพีเอสนำเข้า  อยู่บนเก้าอี้ผ้าใบ หน้าห้อง ขังมีเพื่อนเพียงผู้ร่วมกรง และหนังสือนิบาตชาดก ในที่คุมขังนี้จอมพล ป. ได้บรรยายความรู้สึกลงบนผนังคุกความว่า...“...อันมหาสมุทรแสนสุดลํ้า ดูเขียวคลํ้านํ้ากับฟ้าน่าหวั่นไหว แต่ยัง ไม่เหมือนคุกทุกข์ยากใจ ยิ่งแลไปเหลือระอาฟ้ากับกรง”ในคุกนี้จอมพล ป. นอนกลางวัน นอนในขณะที่คนอื่นตื่นขึ้นทำงาน ตอนดึกซึ่งใครๆ หลับสนิท เขาตื่นขึ้นมาไม่ใช่ทำงานหรืออ่านหนังสือ แต่ตื่น ขึ้นคิดถึงสิ่งที่เป็นอดีตและจะเป็นอนาคต...หนังสือเล่มเดียวกันนี้ยังได้กล่าวอีกว่า ผู้ที่พีสูจน์ความรักที่ยิ่งยง ที่สุดในขณะที่ต้องขัง คือ ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม หิ้วป่นโต อาหารไปให้ที่ลหุโทษทุกเช้ากลางวันเย็น โดยไม่ขาดตกบกพร่องท่านผู้หญิงละเอียด ยังแสดงให้เห็นว่าเกิดเป็นมนุษย์แล้วต้องมี ความกตัญณู ด้วยการขออนุญาตเจ้าหน้าที่เรือนจำเช้าไปใกล้จอมพล ป. แล้วก้มกราบ ไม่ใช่กราบที่อกแต่กราบที่เท้า...กราบด้วยความ อุปกรณ์นักสืบ รักและเห็นอกเห็นใจ กราบวันละสามครั้งโดยไม่เว้น จนกระทั่งจอมพล ป. พ้นโทษเป็นอิสรภาพ ผู้คุมบางคนถึงกับร้องไห้...!และแล้วในวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔(1๙ เวลา ๑0.๐๐ น. บรรดา อาชญากรสงครามทั้งปวงอันมีจอมพล ป. พิบูลสงครามและพรรคพวกได้ เช้าฟังคำตัดสิน ซึ่งในคำพิพากษาสรุปได้ดังนี้แม้พระราชปัญญัติอาชญากรสงคราม (ม.๓) ซึ่งปัญญัติไว้ตอนหนึ่ง

เครื่องดักฟัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น